วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การรักษาศีล 8


การรักษาศีล 8


การรักษาศีล 8
            ศีล คือ การประพฤติดีงาม มีพฤติกรรมที่ไม่เบียดเบียนและฝึกหัดเกลา ในการรักษาศีล 5 นั้น ช่วยให้สังคมมีความสงบเรียบร้อยอย่างน้อยไม่เดือดร้อนจนถึงกับลุกเป็นไฟ แต่ไม่เป็นหลักประกันว่าคนจะมีความสุข ผู้ที่ปรารถนาชีวิตที่ดีงามมีความสุข ควรฝึกหัดพัฒนาตนต่อไปด้วยการรักษาอุโบสถหรือศีล 8 ซึ่งมีข้อปฏิบัติเพิ่มจากศีล 5 อีก 3 ข้อ และตามประเพณีทั่วไปนิยมรักษา ในวันขึ้น-แรม 8 ค่ำ และวันขึ้น-แรม 15 ค่ำ หรือแรม 14 ค่ำในเดือนขาดอุโบสถศีล กับ ศีล 8 มีองค์สมาทานงดเว้น 8 ประการ แต่คำสมาทานพร้อมทั้งเจตนางดเว้นกำหนดเวลาต่างกันคือ ศีล 8 นั้น ผู้สมาทานต้องรักษาตลอดไปไม่มีกำหนดกาลเวลา ส่วนอุโบสถศีลนั้น ผู้สมาทานตั้งใจรักษาอย่างเคร่งครัดเพียงระยะวันหนึ่ง เฉพาะวันธรรมสวนะหรือวันพระเท่านั้น
             การรักษาศีล 8 นี้ เป็นการฝึกตนในการรักษาอิสรภาพของชีวิตไว้ไม่ให้ชีวิตและความสุขของตนต้องไปขึ้นต่อการเสพหรือบริโภควัตถุมากเกินไป ไม่ให้กลายเป็นคนลุ่มหลงมัวเมาในวัตถุ กล่าวคือ ใน 6-7 วันที่ผ่านมาเคยแต่ตามใจตนเอง หาความสุข ด้วยการกินตามใจชอบ ยุ่งอยู่กับการสนุกสนานดู ฟัง การบันเทิง และบำเรอสัมผัสกายด้วยการนอนฟูกหรูหรา พอมาถึงวันที่ 7 หรือ 8 ก็หัดเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ โดยพึ่งวัตถุแต่เพียงเท่าที่จำเป็นหรือพอแก่ความต้องการที่แท้จริงของชีวิต ฝึกเป็นอยู่ให้ดีงามและมีความสุข โดยไม่ต้องพึ่งการบำเรอ ตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส เช่น กินอาหารเพียงในเวลาจำกัดแค่เที่ยงวันที่เพียงพอแก่สุขภาพ
             การปฏิบัติตามหลักการรักษาศีล 8 นี้ นอกจากเป็นการฝึกตนให้มีความสุขได้ง่ายขึ้นและพร้อมที่จะก้าวต่อไปในการพัฒนาชีวิตชั้นสูงขึ้นไปแล้ว ก็จะทำให้มีวัตถุเสพบริโภคเหลือพอที่จะนำไปเผื่อแผ่ให้ความสุขแก่ผู้อื่นและมีเวลาเหลือจากการมัวเมาเสพวัตถุที่จะนำไปใช้ในทางที่ดีงามสร้างสรรค์อย่างอื่น โดยเฉพาะในชั้นภาวนาที่เป็นการพัฒนาชีวิตจิตใจ และพัฒนาปัญญาของตน ตลอดจนไปบำเพ็ญทาน ทำการสงเคราะห์ หรือบำเพ็ญประโยชน์ด้านอื่น ๆ
             ศีล 8
1. เว้นจากปาณาติบาต ไม่ละเมิดต่อชีวิต ร่างกายกัน รวมทั้งไม่รังแกสัตว์
2. เว้นจากอทินนาทาน ไม่ละเมิดต่อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของกันและกัน
3. เว้นจากอพรหมจรรย์ ถือพรหมจรรย์ งดเว้นเมถุน
4. เว้นจากมุสาวาท ไม่ละเมิดต่อกันทางวาจา ไม่ทำร้ายหรือทำลายผลประโยชน์กันด้วยวาจาเท็จ โกหก หลอกลวง
5. เว้นจากสุรายาเมาสิ่งเสพติด ไม่คุกคามต่อความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยของผู้อื่นด้วยการมีพฤติกรรมที่ขาดสติสัมปชัญญะเพราะสิ่งเสพติด
6. เว้นวิกาลโภชน์ ไม่รับประทานอาหารในเวลาวิกาลหรือหลังพระอาทิตย์เที่ยงวัน
7. เว้นนัจจคีตวาทิต-มาลาคันธวิเลปนะฯ งดเว้นการฟ้อนรำ ขับร้อง เล่นดนตรี ดูการละเล่น และการประดับตกแต่งร่างกายใช้ของหอม เครื่องลูบไล้
8. เว้นอุจจาสยนมหาสยนา งดนอนบนฟูกฟู ที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ หรูหราบำเรอตน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น